นม สามารถมีผลต่อการดูดซึมและการทำปฏิกิริยาของยาบางตัวในร่างกาย เนื่องจากมีองค์ประกอบหลายอย่างที่อาจทำให้การออกฤทธิ์ของยาเปลี่ยนแปลงไป เช่น:
- แคลเซียมในนม: แคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลักในนม ซึ่งสามารถจับกับยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลิน (Tetracycline) หรือยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolone) ทำให้การดูดซึมของยาในลำไส้ลดลง ซึ่งทำให้ยาไม่ได้รับประสิทธิภาพเต็มที่
- โปรตีนในนม: โปรตีนในนมอาจมีบทบาทในการจับกับยาบางชนิด ทำให้ความสามารถในการดูดซึมของยาเหล่านั้นลดลง ตัวอย่างเช่น ยาบางตัวที่มีลักษณะเป็นอนุภาคที่มีขนาดใหญ่หรือเป็นสารที่ดูดซึมยาก อาจถูกลดประสิทธิภาพลงเมื่อสัมผัสกับโปรตีนในนม
- ไขมันในนม: ไขมันในนมอาจส่งผลให้การย่อยและการดูดซึมของยาเปลี่ยนแปลงไป โดยการเพิ่มการดูดซึมของยาในบางกรณี แต่ในกรณีของยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มยาคุมกำเนิดหรือยาสำหรับโรคไทรอยด์ การรับประทานร่วมกับนมอาจทำให้ยาเหล่านี้ถูกย่อยได้ช้าลง หรือลดการดูดซึมอย่างมีนัยสำคัญ
การรับประทานนมในขณะทานยาจึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะในกรณียาที่เกี่ยวข้องกับยาเหล่านี้ การรอระยะเวลาหลังจากทานยาและก่อนทานนมจะช่วยลดการปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นและทำให้ยาได้ผลดีขึ้น
ยาอะไรบ้างห้ามกินกับ นม
บางประเภทของยามีปฏิกิริยากับนมที่อาจทำให้การดูดซึมยาในร่างกายลดลงหรือเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพของยาได้ ดังนั้นจึงควรเว้นระยะห่างจากการทานนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมงสำหรับยาเหล่านี้:
- ยาปฏิชีวนะกลุ่มเตตราไซคลิน (Tetracycline): ยากลุ่มนี้ เช่น เตตราไซคลิน (Tetracycline) และไดออกซีไซคลิน (Doxycycline) สามารถถูกแคลเซียมในนมจับและลดการดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร
- ยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolones): ยากลุ่มนี้ เช่น ซีฟาโลโฟร็อกซาซิน (Ciprofloxacin) หรือเลโวฟลอกซาซิน (Levofloxacin) สามารถมีปฏิกิริยากับแคลเซียมในนม ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงได้
- ยากลุ่มยาคุมกำเนิด: ยาบางตัวในกลุ่มยาคุมกำเนิดที่ใช้ฮอร์โมนเช่น เอทินิลเอสตราดิออล (Ethinylestradiol) สามารถลดการดูดซึมเมื่อทานร่วมกับนม
- ยารักษาโรคไทรอยด์: ยากลุ่มนี้ เช่น เลโวไทรอกซีน (Levothyroxine) ซึ่งใช้ในการรักษาภาวะไทรอยด์ต่ำ สามารถถูกแคลเซียมในนมลดการดูดซึมได้ จึงควรทานยานี้ห่างจากการดื่มนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมง .
- ยาบางชนิดที่ใช้รักษาภาวะกระดูกพรุน: ยาเช่น แบซิโดโนเนต (Bisphosphonates) ใช้ในการรักษาภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) สามารถมีปฏิกิริยากับแคลเซียมในนมและลดการดูดซึมของยาได้
การเว้นระยะห่างจากการทานนมอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนและหลังทานยานั้นจึงเป็นวิธีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการปฏิกิริยาที่อาจลดประสิทธิภาพของยา
ถ้ากิน นม ไปแล้วแต่ต้องกินยาสามารถกินได้ไหม
สามารถทานยาได้ แต่ควรระมัดระวังในบางกรณีที่นมอาจมีผลต่อการดูดซึมของยา ตัวอย่างเช่น ยาบางประเภทอาจมีประสิทธิภาพลดลงหากทานร่วมกับนม โดยเฉพาะยาที่สามารถถูกแคลเซียมในนมจับและลดการดูดซึม เช่น ยากลุ่ม เตตราไซคลิน (Tetracyclines) หรือ ฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolones) ที่แคลเซียมในนมสามารถลดการดูดซึมยาได้
คำแนะนำที่ดีคือ ควรรออย่างน้อย 2 ชม. กินยาก่อนแล้วค่อยกินนมตามหลัง อาจจะเล่นหวยไวรอไปก่อนตอนกินยาและเล่นสักพักถึงทำการกินนมที่มี
สรุป
การกินยาบางตัวไม่สามารถกินคู่กับนมได้ และต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 ชม.ขึ้นไป เพราะสารในนมมีแคลเซียมและโปรตีนเป็นส่วนประกอบ บางครั้งตัวยาจะไปจับกับแคลเซียม หรือ โปรตีน ทำให้ส่งประสิทธิภาพไปสู่ร่างกายได้น้อยลง
No responses yet